สถานการณ์ที่แล้งจัดต่อเนื่องส่ งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนส้ มโอที่ ต้องเพิ่มเงินทุน กว่า 5 หมื่นบาท เพื่อเจาะบ่อบาดาล นำน้ำใต้ดินเลี้ยงสวนส้ม หลังจากภัยแล้ง ซึ่งแหล่งน้ำ ในคลองชลประทานสายหลักแห้ งขอดหลังจากชลประทานงดจ่ายน้ำ เข้าสู้ระบบ
สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่พิจิ ตรยังคงส่งผลกระทบชาวสวนส้ มโอในพื้นที่ ตำบลดงกลาง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เกษตรกรสวนส้มโอต้องลงทุนเจาะบ่ อบาดาล โดยว่าจ้างผู้รับเหมาเพื่ อเจาะบ่อบาดาลในส้มโอที่เริ่ มออกลูกจำนวนกว่า 5 ไร่ เพื่อนำน้ำขึ้นมาเลี้ยงต้นโอให้ มีผลผลิตสมบูรณ์ หลังจากที่สถานการณ์ภัยแล้งส่ งผลกระทบกับชาวสวนส้มแหล่งน้ำ ธรรมชาติแห้งจนหมดและ น้ำในคลองชลประทาน ซึ่งเป็นแหล่งน้ำหลักแห้ งขอดจนไม่มีน้ำ ส่งผลกระทบกับเกษตรกรผู้ปลูกส้ มโอแหล่งใหญ่ของจังหวัดพิจิตร ขาดน้ำต้นทุนในการสูบเลี้ยงส้ มโอที่กำลังออกผลใกล้เก็บเกี่ยว เกษตรกรจึงต้องลงทุนว่าจ้างผู้ รับเหมาทำการเจอะบ่อบาดาล ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ ายในการเจาะบ่อและอุปกรณ์ต่ างๆมูลค่ากว่า 50,000 บาท ต่อการเจาะบ่อบาดาล 1 ลูก เป็นการเพิ่มต้นทุนในการปลูกส้ มโอจากเดิม แต่เกษตรกรก็ต้องยอมลงทุนเพื่ อป้องกันส้มโอจะได้รับความเสี ยหายจากภัยแล้ง
สำหรับพื้นที่จังหวัดพิจิ ตรจากสถานการณ์ที่แล้งจัดต่อเนื่ องในช่วงฤดูแล้ง ประกอบกับฤดูฝนที่ผ่านมามีปริ มาณฝนน้อยกว่าทุกปี ส่งผลให้พื้นที่จังหวัดพิจิตร เริ่มประสบปัญหาภัยแล้งอีกครั้ งซึ่งถือว่าเร็วกว่าทุกปีและยั งส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนส้ มโอ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตส้มโอสำคั ญของจังหวัดพิจิตร ทั้งส้มโอท่าข่อย ส้มโอพันธุ์พื้นเมืองของจังหวั ดพิจิตร และส้มโอขาวแตงกวาที่มีเนื้อที่ กว่า 2,000 ไร่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น