เกษตรกรที่ปลูกแตงโม พืชใช้น้ำน้อยแทนการทำนาในช่วงหน้าแล้ง ประสบปัญหาหลังราคาแตงโมตกต่ำเหลือแค่กิโลกรัมละ5บาท
เกษตรกรที่ปลูกแตงโมแทนการทำนาในช่วงหน้าแล้งในพื้นที่ ตำบลบ้านบุ่ง อำเภอเมืองพิจิตร ทำการเก็บผลผลิตลูกแตงโม เพื่อนำมาขายให้กับพ่อค้าที่มารับซื้อ แต่ก็ต้องกำลังประสบปัญหาเรื่องของราคาแตงโมที่กำลังตกต่ำเหลือแค่กิโลกรัมละ5บาท แต่ก็ต้องจำใจต้องขายเพราะถึงเวลาตัดถ้าไม่ตัดขายอาจจะทำให้ลูกแตงโมเน่าเสียคาต้นส่งผลให้ขาดทุนนับแสนบาท
นางเพ็ญ คะระนันท์ เกษตรกรที่ปลูกแตงโม เล่าว่า ตนเองปลูกแตงโมในพื้นที่กว่า10ไร่โดยลงทุนไปทั้งหมดกว่า 1 แสนบาทโดยบอกว่าราคาของแตงโมในปีนี้ตกต่ำมากเลยเหลือแค่กิโลกรัมละ 5 บาท ซึ่งแตกต่างจากปีที่ผ่านมา แต่เกษตรกรก็ต้องจำใจที่ต้องตัดแตงโมขายในราคาที่ถูก เพราะถ้าไม่ตัดขายอาจจะทำให้ลูกแตงโมเน่าเสียหายขาดทุนเสียหายมากไปกว่านี้
สำหรับตำบลบ้านบุ่ง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นพื้นที่อยู่นอกเขตชลประทาน โดยการปลูกแตงโมของเกษตรกร นับว่าเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ ในการปลูกทดแทนการทำนาข้าว โดยใช้เวลาเพียง 2 เดือนก็สามารถเก็บผลผลิตขายได้ โดยรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ไร่ละ 10,000 บาท แต่ปัจจุบันจากที่ทางภาครัฐมีการส่งเสริมปลูกพืชใช้น้ำน้อยทดแทนการทำนา ทำให้ผลผลิตออกจำนวนมาก จึงทำให้แตงโมราคาตกต่ำทำให้เกษตรกรที่ปลูกแตงโมต้องขาดทุน และ มีรายได้น้อยลงกว่าครั้งที่ผ่านมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น