พิจิตรแหล่งกักเก็บน้ำ คลองสายหลัก ขนาดใหญ่แห้งขอดหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน ดินแห้งแตกระแหง เกษตรกรชาวนาเร่งทำการสูบน้ำที่เหลือติดก้นคลองล่อเลี้ยงข้าวนาปรัง ที่ทำการเพาะปลูก ขณะที่ชาวนาในลุ่มแม่น้ำยม 4 ตำบล ในอำเภอสามง่าม ข้าวนับ 1,000ไร่ เสี่ยงเสียหายจากขาดน้ำ
สถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดพิจิตร โดยแหล่งกักเก็บน้ำตามธรรมชาติ โดยเฉพาะคลองบ้านบุ่ง ตำบลบ้านบุ่ง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นคลองสายหลัก นอกเขตชลประทาน ที่ไหลผ่านหมู่บ้าน และ แหล่งพื้นที่การเกษตร โดยระดับน้ำได้ทยอยแห้งลง พื้นดินแตกระแหง เหลือเพียงแอ่งน้ำขนาดเล็ก ที่ให้เกษตรกรชาวนา ทำการสูบน้ำขึ้นมาล่อเลี้ยงต้นข้าวนาปรัง อายุ 1 เดือนเศษ ที่เกษตรกรทำการเพาะปลูก ส่งผลทำให้สัตว์น้ำ ที่เคยอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำ ต้องตายลงจากการขาดน้ำ รวมถึงปริมาณน้ำที่เหลืออยู่ไม่เพียงพอต่อการทำนาข้าว ที่ลงมือปลูกข้าวไว้ก่อนหน้า
ขณะที่ปริมาณน้ำในแม่น้ำยมที่ไหลผ่าน 4 อำเภอประกอบไปด้วย อำเภอ สามง่าม อำเภอโพธิ์ประทับช้าง อำเภอบึงนาราง และอำเภอโพทะเล ตลอดระยะทาง 127 กิโลเมตร ปริมาณน้ำยังคงแห้งอย่างต่อเนื่อง ต้นข้าวนาปรัง ที่อาศัยลุ่มน้ำยม เป็นแหล่งน้ำต้นทุน ข้าวนาปรัง กำลังขาดน้ำ ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะ ใน 4 ตำบลในอำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร คือ ตำบลกำแพงดิน ตำบลสามง่าม ตำบลรังนก ตำบลหนองโสน ข้าวนาปรังกำลังขาดน้ำ เสี่ยงยืนต้นจำนวนหลายพันไร่ เนื่องจากไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าว
ทางด้าน นายธวัธ กัลยา อายุ 53 ปี เกษตรกรชาวนาหมู่ที่ 5 ตำบลกำแพงดิน อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร กล่าวว่า” สถานการณ์ภัยแล้งจังหวัดพิจิตร ขณะนี้ส่งผลกระทบกับเกษตรกร โดยเฉพาะ อำเภอสามง่าม 4 อำเภอ เดือดร้อนหนักปริมาณน้ำไม่มีล่อเลี้ยงต้นข้าวนาปรัง ทำให้ข้าวเสี่ยงจะเกิดความเสียหาย จำนวนหลายพันไร่ ถึงแม้ว่า เกษตรกรชาวนาจะมีบ่อบาดาล ก็ตามแต่ระดับน้ำใต้ดิน ยังคงลดระดับลง จนทำให้น้ำบาดาลหลายแหล่ง เริ่มที่จะไม่สามารถสูบน้ำบาดาลขึ้นมาล่อเลี้ยงต้นข้าวได้ ในขณะนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น