เกิดไฟไหม้ป่าเศษวัชพืชกลางบึ งสีไฟ ในจังหวัดพิจิตร ที่แห้งแล้ง ทำให้เกิดไฟลุกไหม้ กว่า 100 ไร่ กลุ่มควัน พุ่งทะยานภายในชั้นบรรยากาศ และ กลุ่มหมอกควัน เจ้าหน้าที่เร่งนำรถนำ 6 คัน เข้าควบคุมไฟ เป็นไปด้วยความลำบาก จากการทับถมของเศษวัชพืช
ภาพมุมสูง ที่สามารถมองเห็นกลุ่มควันไฟ ที่เกิดไฟลุกไหม้ป่าวัชพืช ที่อยู่กลางบึงสีไฟ ทางด้านทิศตะวันตกของบึงสีไฟ มร่เกิดไฟไหม้ลุกลามหญ้า และ เศษวัชพืช ในพื้นที่บึงสีไฟ แหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ มีพื้นที่กว่า 5300 ไร่ ซึ่งไฟได้ลุกไหม้เป็นวงกว้าง กว่า 100 ไร่ เนื่องจากอากาศที่ร้อนในช่ วงกลางวัน และ มีกระแสลมจึงทำให้ไฟไหม้ขยายพื้ นที่อย่างรวดเร็ว จนเกิดกลุ่มควันไฟสีขาว และ เศษเขม่าขี้เถ้า ลอยพุ่งทะยาน ขึ้นไปในชั้นบรรยากาศ ปกคลุม บริเวณโดยรอบบึงสีไฟ ส่วนสาเหตุของการติดไฟไหม้ กลางบึงในครั้ง นี้ ยังไม่ทราบสาเหตุ ของการลุกไหม้ ที่เกิดจาก คนเข้าไปจุด หรือ ไฟที่เกิดขึ้นเอง เนื่องจากอากาศที่ร้อน
เจ้าหน้าที่ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ที่อยู่โดยรอบบึงสีไฟ นำรถบรรทุกน้ำ 6 คัน พร้อมพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เข้าควบคุมการลุกไหม้ พร้อมทำแนวกันไฟ ไม่ให้ลุกลาม โดย การควบคุมเพลิง เป็นไปด้วยความลำยาก เนื่องจากไฟได้ลุกไหม้ไหม้ หลายจุด และ ลุกลามอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีการทับถม ของเศษวัชพืช ที่แห้ง และง่ายต่อการติดไฟ
ขณะทาง นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร สั่งหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้ องถิ่น และ ผู้นำหมู่บ้าน เข้มงวดและป้องกัน การลุกไหม้ของวัชพืช ในบึงสีไฟ และรณรงค์งดการเผาวัชพืช ในพื้นที่บึงสีไฟ พร้อมเร่งหาสาเหตุ ของการเกิดไฟลุกไหม้ในครั้งนี้
สำหรับบึงสีไฟ ปัจจุบัน มีพื้นที่ประมาณ 5,300 ไร่ โดยสถานการณ์ภัยแล้ง และ สภาพบึงสีไฟ ที่อยู่ในช่วงโครงการขุดลอก โดยมีพื้นที่บางส่วน ที่แบ่งเป็นพื้นที่อนุรักษ์ พื้นที่ชุ่มน้ำ เกิดการทับถมของเศษวัชพืช จึงทำให้ บึงสีไฟแห้งแล้งตื้นเขิน และ มีเศษวัชพืช ขึ้นปกคลุม และ มักจะเกิดไฟไหม้ เศษวัชพืชกลางบึงสีไฟ เป็นประจำทุกปี ในช่วงหน้าแล้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น