รายการถ่ายทอดสด



เทปบันทึกรายการ : ผ่านทาง YouTube

ข่าวเด่น ในรอบ 7 วัน

วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ไฟลุกไหม้เศษวัชพืชกลางบึงสีไฟเกิดหมอกควันไฟ


เกิดไฟไหม้ป่าเศษวัชพืชกลางบึงสีไฟ ในจังหวัดพิจิตร ที่แห้งแล้ง  ทำให้เกิดไฟลุกไหม้ กว่า 100 ไร่ กลุ่มควัน พุ่งทะยานภายในชั้นบรรยากาศ และ กลุ่มหมอกควัน  เจ้าหน้าที่เร่งนำรถนำ 6 คัน เข้าควบคุมไฟ เป็นไปด้วยความลำบาก  จากการทับถมของเศษวัชพืช
ภาพมุมสูง ที่สามารถมองเห็นกลุ่มควันไฟ ที่เกิดไฟลุกไหม้ป่าวัชพืช ที่อยู่กลางบึงสีไฟ ทางด้านทิศตะวันตกของบึงสีไฟ  มร่เกิดไฟไหม้ลุกลามหญ้า และ เศษวัชพืช ในพื้นที่บึงสีไฟ แหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ มีพื้นที่กว่า 5300 ไร่  ซึ่งไฟได้ลุกไหม้เป็นวงกว้าง กว่า 100  ไร่   เนื่องจากอากาศที่ร้อนในช่วงกลางวัน และ มีกระแสลมจึงทำให้ไฟไหม้ขยายพื้นที่อย่างรวดเร็ว  จนเกิดกลุ่มควันไฟสีขาว  และ เศษเขม่าขี้เถ้า ลอยพุ่งทะยาน ขึ้นไปในชั้นบรรยากาศ  ปกคลุม บริเวณโดยรอบบึงสีไฟ ส่วนสาเหตุของการติดไฟไหม้กลางบึงในครั้ง นี้ ยังไม่ทราบสาเหตุ ของการลุกไหม้  ที่เกิดจาก คนเข้าไปจุด หรือ ไฟที่เกิดขึ้นเอง เนื่องจากอากาศที่ร้อน

เจ้าหน้าที่ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ที่อยู่โดยรอบบึงสีไฟ นำรถบรรทุกน้ำ  6 คัน พร้อมพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง   เข้าควบคุมการลุกไหม้  พร้อมทำแนวกันไฟ ไม่ให้ลุกลาม โดย การควบคุมเพลิง เป็นไปด้วยความลำยาก เนื่องจากไฟได้ลุกไหม้ไหม้หลายจุด และ ลุกลามอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีการทับถม ของเศษวัชพืช ที่แห้ง และง่ายต่อการติดไฟ  
ขณะทาง นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร สั่งหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ ผู้นำหมู่บ้าน เข้มงวดและป้องกัน การลุกไหม้ของวัชพืช ในบึงสีไฟ และรณรงค์งดการเผาวัชพืช ในพื้นที่บึงสีไฟ พร้อมเร่งหาสาเหตุ ของการเกิดไฟลุกไหม้ในครั้งนี้

สำหรับบึงสีไฟ ปัจจุบัน มีพื้นที่ประมาณ 5,300 ไร่ โดยสถานการณ์ภัยแล้ง และ สภาพบึงสีไฟ ที่อยู่ในช่วงโครงการขุดลอก โดยมีพื้นที่บางส่วน ที่แบ่งเป็นพื้นที่อนุรักษ์ พื้นที่ชุ่มน้ำ เกิดการทับถมของเศษวัชพืช จึงทำให้ บึงสีไฟแห้งแล้งตื้นเขิน และ มีเศษวัชพืช ขึ้นปกคลุม และ มักจะเกิดไฟไหม้ เศษวัชพืชกลางบึงสีไฟ เป็นประจำทุกปี ในช่วงหน้าแล้ง  


อบจ.พิจิตร นายกชาติชายฯ ลงพื้นที่ อ.ทับคล้อ มอบอุปกรณ์ผู้สูงอายุและคนพิการ 68 ราย


          องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร นำโดย นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ นายก อบจ.พิจิตร และในฐานะ ประธานกรรมการบริหารกองทุนฟื้นพูสมรรถภาพที่จำเป็นต่อสุขภาพจังหวัดพิจิตร ได้ลงพื้นที่ไปพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องประชนในเขต อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ณ โรงพยาบาลทับคล้อ พร้อมให้กำลังใจผู้สูงอายุที่และผู้พิการ โดยได้ให้ความสำคัญกับพี่น้องประชาชนทั้งทางด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีชิตเป็นนโยบาบลำดับต้นๆ และให้ความช่วยเหลือคนพิการและผู้สูงอายุ รวมถึงผู้ยากไร้ ในจังหวัดพิจิตรภายใต้หลักเกณฑ์ของกองทุนฯ 


          กองทุนฟื้นพูสมรรถภาพที่จำเป็นต่อสุขภาพจังหวัดพิจิตร ได้จัดตั้งขึ้นในปี 2555 โดยเป็นการสบทบงบประมาณร่วมกันระหว่าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร และ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้คนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ที่อยู่ในระยะที่จำเป็นที่จะต้องได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตรได้รับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ที่จำเป็นต่อสุขภาพจากหน่วยบริการฯ และสนับสนุนการพัฒนาระบบของหน่วยบริการทุกระดับในจังหวัด ให้สามารถจัดบริการและอุปกรณ์ตอบสนองความจำเป็นของคนพิการและผู้สูงอายุ สนับสนุนให้คนพิการและผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างอิสระ


          พร้อมกันนี้ นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ ได้มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์สนับสนุนให้แก่คนพิการและผู้สูงอายุ เพื่อสามารถนำไปฟื้นฟูตนเอง และใช้ชีวิตประจำวันได้สะดวกขึ้น รวมจำนวนจำนวน 68 ราย ณ โรงพยาบาลทับคล้อ  
          
          องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร ไม่ทอดทิ้งผู้ด้อยโอกาส คุณก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่สามารถเป็นส่วนหนึ่งได้ สำหรับ ผู้ที่สนใจร่วมบุญบริจาคเครื่องมือทางการแพทย์ ทั้งใหม่ และผ่านการใช้แล้วที่อยู่ในสภาพดี หรือสามารถซ่อมแซมได้ สามารถนำมาบริจาคได้ที่ "ศูนย์ซ่อมบำรุงกายอุปกรณ์จังหวัดพิจิตร" องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร (สนามกีฬาพิจิตรสเตเดี้ยม) โทร. 056-615243, 083-9552587 (ในเวลาราชการ)
          
หรือข้อมูลเพิ่มเติมที่ : http://www.govesite.com/FundPhichit/index.php?p=1


พิจิตร รถรับส่งนักเรียนพลิกคว่ำบาดเจ็บราย 19 ราย


พิจิตรเกิดเหตุรถรับส่งนักเรียนพลิกคว่ำ ตกลงกลางทุ่งนา  หลังจากรับนักเรียน เพื่อไปส่งที่โรงเรียน อนุบาลวังทรายพูนในที่เกิดเหตุพบรถรับส่งยี่ห้ออีซูซุ สี เหลือง หมายเลขทะเบียน 40-0259พิจิตร ซึ่งเป็นรถรับส่งของโรงเรียนอนุบาลวังทรายพูน พลิกคว่ำที่บริเวณ กลางทุ่งนา สภาพรถ รถพลิกคว่ำตะแคงข้างกระเป๋าของนักเรียน กระจายในที่เกิดเหตุ   
ที่ถนนหมู่บ้านแยกวังคล้าย ตำบลหลองปลาไหล อำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตรเกิดเหตุรถรับส่งนักเรียนพลิกคว่ำ ตกลงกลางทุ่งนา  หลังจากรับนักเรียน เพื่อไปส่งที่โรงเรียน อนุบาลวังทรายพูน โดยในที่เกิดเหตุ ร้อยตำรวจเอกสุชิน เกศาคม พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร ได้รับแจ้งว่ามีรถรับส่งนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งพลิกคว่ำตกถนน บริเวณทางแยกบ้านวังคล้าย หมู่ 11 ตำบลหนองปลาไหล อำเภอวังทรายพูน  โดยในที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีเหลือง หมายเลขทะเบียน 40-0259  พิจิตร ตกลงถนนลงไปนอนนอนตะแคง อยู่บริเวณไหล่ทาง ซึ่งเป็นที่นาของชาวบ้านที่ได้เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว  ภายในรถยังมีกระเป๋านักเรียนอีกจำนวนหนึ่งตกอยู่ภายในรถจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย เร่งไปให้การช่วยเหลือรับผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลวังทรายพูน จำนวน 19 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นเด็กนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง ในอำเภอวังทรายพูน ที่กำลังไปนักเรียนตามหมู่บ้านเพื่อไปส่งโรงเรียน โดยเด็กนักเรียนทั้ง 19ราย  ได้รับบาดเจ็บคนละเล็กคนละน้อยตามศีรษะ และแขนขา และมีอาการตกใจ จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น โดยมีผู้ปกครองจำนวนมาก ที่ทราบข่าวต่างพากันดูลูกหลานของตนเองจนแน่นโรงพยาบาล
จาการสอบสวนนายเอกชัย  ถิ่นแพร อายุ 43 ปี   ซึ่งเป็นคนขับรถรับส่งนกเรียนคันดังกล่าวได้ให้การว่า เมื่อตนเองขับรถมาถึงสามแยกบ้านวังคล้าย   และกำลังจะไปรับนักเรียน ที่หมู่บ้านข้างหน้าเพิ่ม โดยเมื่อเลี้ยวมาได้เพียง 100 เมตร รถก็เกิดอาการควบคุมพวงมาลัย ไม่ได้ ทำให้รถเกิดไถลลงข้างทาง ซึ่งตนเองได้พยามเหยียบเบรก ให้รถมีความเร็วที่ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ว่าจะไม่สามารถบังคับพวงมาลัยได้ก็ตาม  และฝากขอโทษพ่อแม่ผู้ปกครองทุกคน ที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น โดยไม่ได้ตั้งใจ






วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

อบจ.พิจิตร ร่วม กิจกรรมจิตอาสาพระราชทาน “พัฒนาแม่น้ำพิจิตร ต.คลองคะเชนทร์”


วันนี้ (5 ก.พ.63) นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ นายก อบจ.พิจิตร พร้อมด้วยนางอุมาพร แก้วทอง นายก อบต.คลองคะเชนทร์ ผู้นำท้องที่/ท้องถิ่น ต.คลองคะเชนทร์และประชาชนจิตอาสา ร่วมกันจัดกิจกรรมจิตอาสาพระราชทาน “พัฒนาแม่น้ำพิจิตร ม.4 และ ม.5 ต.คลองคะเชนทร์ อ.เมือง จ.พิจิตร เพื่อแสดงออกถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานโครงการจิตอาสาพระราชทาน ด้วยมุ่งหวังให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่า มีความสมัครสมานสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจ ประกอบกิจกรรมสาธารณะ เพื่อประโยชน์สุขของชุมชนส่วนรวม โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เพื่อให้เกิดความรัก ความผูกพันใน 4 สถาบันหลักของชาติ อันได้แก่ สถาบันชาติ สถาบันศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ และประชาชน ด้วยการประสานความร่วมมือกันในการทำงาน แก้ไขปัญหาขั้นพื้นฐานของชาติ มีความสุขอย่างยั่งยืน สนองพระราชปณิธานที่ว่า “รักษา สืบสาน ต่อยอด” นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความขาดแคลนแหล่งน้ำอุปโภค บริโภค ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ด้วย


พิธีเปิด




ปรับปรุงสะพานข้ามแม่น้ำพิจิตร





กำจัดผักตบชวา และวัชพืช



ขุดลอกแม่น้ำที่ตื้นเขินด้วยเครื่องจักรกล









พิจิตร คลองสายหลักการเกษตรแห้งขอด



พิจิตรแหล่งกักเก็บน้ำ คลองสายหลัก ขนาดใหญ่แห้งขอดหลายพื้นที่  โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน ดินแห้งแตกระแหง เกษตรกรชาวนาเร่งทำการสูบน้ำที่เหลือติดก้นคลองล่อเลี้ยงข้าวนาปรัง ที่ทำการเพาะปลูก  ขณะที่ชาวนาในลุ่มแม่น้ำยม 4 ตำบล ในอำเภอสามง่าม ข้าวนับ 1,000ไร่ เสี่ยงเสียหายจากขาดน้ำ

สถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดพิจิตร โดยแหล่งกักเก็บน้ำตามธรรมชาติ โดยเฉพาะคลองบ้านบุ่ง ตำบลบ้านบุ่ง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร  ซึ่งเป็นคลองสายหลัก นอกเขตชลประทาน  ที่ไหลผ่านหมู่บ้าน และ แหล่งพื้นที่การเกษตร   โดยระดับน้ำได้ทยอยแห้งลง  พื้นดินแตกระแหง  เหลือเพียงแอ่งน้ำขนาดเล็ก ที่ให้เกษตรกรชาวนา ทำการสูบน้ำขึ้นมาล่อเลี้ยงต้นข้าวนาปรัง อายุ 1 เดือนเศษ ที่เกษตรกรทำการเพาะปลูก ส่งผลทำให้สัตว์น้ำ ที่เคยอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำ ต้องตายลงจากการขาดน้ำ  รวมถึงปริมาณน้ำที่เหลืออยู่ไม่เพียงพอต่อการทำนาข้าว ที่ลงมือปลูกข้าวไว้ก่อนหน้า 

ขณะที่ปริมาณน้ำในแม่น้ำยมที่ไหลผ่าน 4 อำเภอประกอบไปด้วย อำเภอ สามง่าม อำเภอโพธิ์ประทับช้าง อำเภอบึงนาราง และอำเภอโพทะเล ตลอดระยะทาง 127 กิโลเมตร ปริมาณน้ำยังคงแห้งอย่างต่อเนื่อง  ต้นข้าวนาปรัง ที่อาศัยลุ่มน้ำยม  เป็นแหล่งน้ำต้นทุน ข้าวนาปรัง กำลังขาดน้ำ ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะ ใน  4  ตำบลในอำเภอสามง่าม  จังหวัดพิจิตร  คือ ตำบลกำแพงดิน  ตำบลสามง่าม ตำบลรังนก ตำบลหนองโสน  ข้าวนาปรังกำลังขาดน้ำ เสี่ยงยืนต้นจำนวนหลายพันไร่ เนื่องจากไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าว

ทางด้าน นายธวัธ  กัลยา อายุ 53 ปี เกษตรกรชาวนาหมู่ที่ 5 ตำบลกำแพงดิน อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร กล่าวว่า” สถานการณ์ภัยแล้งจังหวัดพิจิตร ขณะนี้ส่งผลกระทบกับเกษตรกร โดยเฉพาะ อำเภอสามง่าม 4 อำเภอ เดือดร้อนหนักปริมาณน้ำไม่มีล่อเลี้ยงต้นข้าวนาปรัง  ทำให้ข้าวเสี่ยงจะเกิดความเสียหาย จำนวนหลายพันไร่   ถึงแม้ว่า เกษตรกรชาวนาจะมีบ่อบาดาล ก็ตามแต่ระดับน้ำใต้ดิน ยังคงลดระดับลง จนทำให้น้ำบาดาลหลายแหล่ง เริ่มที่จะไม่สามารถสูบน้ำบาดาลขึ้นมาล่อเลี้ยงต้นข้าวได้ ในขณะนี้


วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ตี๋ใหญ่ พิจิตร เปลือยกายล่อนจ้อน หนีคดี ซ่อนตัว 4 คืน 5 วันในบึงสีไฟ



เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ สภ.เมืองพิจิตร  เข้าตรวจสอบ หลังรับแจ้งเหตุ พบชายหนุ่มสภาพเปลือยกาย ออกมาจากพื้นที่กลางบึงสีไฟ เพื่อมาขอความช่วยเหลือ ขออาหาร กับ ชาวบ้าน และ เจ้าหน้าที่ที่ดูแล สถานที่อุทยานบัว เขตบึงสีไฟ ที่บริเวณบ้านท่ากระทู้ ตำบลท่าหลวง อำเภอเมืองพิจิตร

โดย นายวิสูทธ์ คำมี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ระบุ ว่า ชายหนุ่ม ได้เดินออกมาจากป่า ในบึงสีไฟ โดยมีสภาพเปลือยกาย เนื้อตัวมีลอยขีดข่วนของเศษวัชพืช  มีใบบัวปิดหน้า และ มีเศษผ้าใบปิดลำตัวมา พร้อมมีเศษใบไม้ปิดตรงอวัยเพศ  เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน  จากนั้น มานอน หมดแรง ในสนามหญ้า ซึ่งตนเองพยามยามสอบถาม แต่ ชายดังกล่าวไม่พูด จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ สภ.เมืองพิจิตร  เข้าตรวจสอบ และได้นำน้ำดื่ม และ อาหาร ให้กิน  ภายหลังทราบชื่อ ชายที่เปลือยกาย คือ นายอำนาจ เขียวพุ่มพวง อายุ 41 ปี เป็นชาวบ้าน ตำบลบ้านไร่ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร โดยพูดจา วกไปวนมา กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า  ตนเองได้นำรถยนต์อีซูซุ สีบอร์นเงิน หมายเลขทะเบียน นธ-4968 พิจิตร ของพ่อ มาจอด ไว้ที่ริมบึงสีไฟ จากนั้น ได้มองเห็นคล้ายเพื่อนรุ่นน้องอยู่ฝั่งตรงข้ามของบึงสีไฟ จึงได้ถอดเสื้อผ้าว่ายน้ำข้ามไปหา  จากนั้นจึงอาศัยอยู่ในบึงสีไฟ เป็นเวลา 4 คืน 5 วัน แล้วจึงออกมา

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ ได้ประสานไปยัง สภ.เมืองพิจิตร ตรวจสอบประวัติ เบื้องต้นทาง พบว่า ชายที่เปลือยกายลงไปซ่อนตัวหนีคดี เลียนแบบละครดังเรื่อง "ตี๋ใหญ่" คือ นายอำนาจ เขียวพุ่มพวง ได้ก่อเหตุ ใช้อาวุธทำร้ายร่างกายผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส และหนีความผิด จากพื้นที่ สภ.วชิรบารมี  จังหวัดพิจิตร เมื่อสัปดาห์ ก่อน โดยหลังจากที่ก่อเหตุ ได้หนีออกมา โดยขับรถยนต์ ของพ่อหนีมาในตัวจังหวัด และเข้าไปซ่อนตัวหนีความผิด  ในบึงสีไฟ ตั้งแต่ เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันศุกร์ วันที่ 31 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา เป็นระยะเวลา 5 วัน 4 คืน  เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิจิตร ได้ ทำการคุมตัวชายดังกล่าว ส่งพนักงานสอบสวน ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วชิรบารมี  จังหวัดพิจิตร มารับตัวดำเนินคดีทำร้ายร่างกาย ต่อไป



อนุโมทนาบุญ คุณสอาด เฉลยไตร บริจาค 1 แสนบาท สมทบทุนซื้อเครื่องมือแพทย์


นายแพทย์สุรชัย แก้วหิรัญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพิจิตร นางอำไพ ตันสกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร  ร่วมรับมอบเงินบริจาค จาก คุณสอาด เฉลยไตร พร้อมครอบครัว บริจาคเงิน จำนวน 100,000 บาท ให้กับโรงพยาบาลพิจิตร เพื่อสมทบทุนซื้อเครื่องมือหรืออุปกรณ์ระบบทางการแพทย์

ติดตามข่าวสาร คนพิจิตร แฟนเพจ ได้ที่ : 

คนพิจิตร Line Official คลิ๊ก https://lin.ee/st48Lth

วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

พิจิตร ถึงคิวเข้าฟรี สวนนุงนุชพัทยา เดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรัก



สวนนงนุชพัทยา เปิดบ้าน ต้อนรับพี่น้องชาวไทย 8 จังหวัด และ 5 เขต กรุงเทพมหานคร เข้าชมสวนนงนุชพัทยา ฟรี” 1 เดือน
 วันที่ 1-29 กุมภาพันธ์ 2563
ได้แก่ จ.นครสวรรค์   จ.พิจิตร  จ.กำแพงเพชร  จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.เลย จ.เพชรบูรณ์ จ.ชัยภูมิ


เข้าชมสวนสวย ที่ สวนนงนุชพัทยา ฟรี เพียงแสดงบัตรประจำตัวประชาชน ที่มี ภูมิลำเนาในจังหวัด/เขต ที่ร่วมรายการ
 ณ จุดจำหน่ายบัตร ก็สามารถเข้าชมสวนสวย ที่ สวนนงนุชพัทยา
ได้ทุกโซน มากกว่า 50 โซน รวมหุบเขาไดโนเสาร์แล้ว(ยกเว้นการแสดงในโรงละคร)

สามารถใช้สิทธิเข้าชมตั้งแต่วันนี้ ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2563
ในช่วงเวลาเปิดทำการ 8.00-18.00น. ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์


รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook https://www.facebook.com/pg/Garden.Nongnooch/posts/



ติดตามข่าวสาร คนพิจิตร แฟนเพจ ได้ที่ : 

คนพิจิตร Line Official คลิ๊ก https://lin.ee/st48Lth




โรงเรียนพิจิตรปัญญานุกูล เปิดรับสมัครนักเรียน

โรงเรียนพิจิตรปัญญานุกูล เปิดรับสมัครนักเรียน 20 มีนาคม ถึง 30 เมษายน 2563



รายละเอียด : https://www.facebook.com/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B8%A5-153037544882020/?tn-str=k*F&hc_location=group_dialog

ติดตามข่าวสาร คนพิจิตร แฟนเพจ ได้ที่ : 

คนพิจิตร Line Official คลิ๊ก https://lin.ee/st48Lth

พิจิตร แล้งแหล่งน้ำหมดข้าวนาปรังยืนต้นตาย


ชาวนาพิจิตรนอกเขตชลประทานเสี่ยงทำนา ในช่วงแล้ง แหล่งน้ำตามธรรมชาติแห้งขอดลง  ต้องปล่อยข้าวนาปรัง ที่เริ่มเพาะปลูก กว่า 20 ไร่ ยืนต้นตายจากภัยแล้ง ขณะที่สำนักงานเกษตรจังหวัดพิจิตร  ออกรณรงค์ส่งเสริม ให้เกษตรกรปลูกพืชใช้น้ำน้อย

สถานการณ์น้ำ ในจังหวัดพิจิตร ว่า”  แหล่งน้ำต้นทุน ในแหล่งน้ำธรรมชาติที่แห้งขอดลง ส่งผลทำให้ต้นข้าวนาปรัง อายุกว่า 1 เดือนเศษ  กว่า  20  ไร่ ของเกษตรกรหมูที่ 5 ตำบลไผ่ท่าโพ อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร เป็นพื้นที่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรส่วนใหญ่ที่เสี่ยงทำนา เนื่องจากไม่สามารถปลูกพืชชนิดอื่นได้   กำลังขาดแคลนน้ำ แห้งเหี่ยว และยืนต้นตาย  หลังจากที่ชาวนาที่เสี่ยงการทำนาปรังในช่วงนี้ขาดน้ำ เนื่องจากระดับน้ำในแหล่งกักเก็บน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำต้นทุนของการเพาะปลูกข้าวนาปรัง รวมถึงน้ำบาดาลใต้ดินที่ลดระดับลง จนไม่สามารถสูบน้ำขึ้นมาล่อเลี้ยงต้นข้าว ต่อการทำนาทั้งหมดได้   เกษตรกรชาวนา จึงจำเป็นต้องยอมปล่อยทิ้งนาข้าวบนแปลงนา ให้แห้งเหี่ยวตาย ไปกับความแห้งแล้ง    

ขณะที่ นายวีระชัย เข็มวงษ์ เกษตรจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า” สถานการณ์พืชที่ปลูกช่วงฤดูแล้ง ข้าวนาปรัง ที่ชาวนาปลูกข้าวรอบ2 มีพื้นที่ปลูกประมาณ 250,000 ไร่ จากพื้นที่เคยปลูก กว่า 500,000 ไร่  ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่มีแหล่งน้ำบาดาลสำรอง คาดว่าจะได้รับผลกระทบเป็นส่วนน้อย   ส่วนพืชที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากได้แก่ มะม่วง พื้นที่ปลูกประมาณ 27,000ไร่ ในพื้นที่อำเภอสากเหล็ก และ ส้มโอ พื้นที่ปลูกในพื้นที่อำเภอเมือง และ อำเภอโพธิ์ประทับช้าง ประมาณ 15,000 ไร่  เนื่องจากระดับน้ำบาดาลลดลง รวมถึงน้ำผิวดินตามแหล่งกักเก็บ  

นายวีระชัย เข็มวงษ์ เกษตรจังหวัดพิจิตร กล่าวต่อว่า” ซึ่งทางสำนักงานเกษตรจังหวัดพิจิตร  ออกรณรงค์ส่งเสริม ให้เกษตรกรปลูกพืชใช้น้ำน้อยตามนโยบายกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ ข้าวโพดหลังนา ถั่วเขียวและพืชผัก รวมถึงแตงโม เมล่อนและข่า ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่ ต่างพากันปรับตัว ทำการเกษตรพืชอายุสั้น แทนการทำนา ในช่วงฤดูแล้ง  

วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

พิจิตร พบฟอสซิลต้นไม้กลายเป็นหินอายุ 2,000 ปี ในส่วนมะม่วง


พิจิตรเจ้าของสวนเตรียมปรับพื้นที่ดินเพื่อเตรียมปลูกมะม่วง พบฟอสซิลต้นไม้ขนาดใหญ่กลายเป็นหินที่อายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปี จำนวนมากมีทั้งสมบูรณ์และแตกหัก
พื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลวังทับไทร อำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร พบต้นไม้ที่แปรสภาพกลายเป็นหินฟอสซิลที่อายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปี โดยพบเจอขณะที่กำลังเตรียมปรับพื้นที่เพื่อทำการปลูกมะม่วงได้พบกับแท่งหินคล้ายท่อนไม้ขนาดใหญ่ที่สมบูรณ์ จึงได้ขุดดินบริเวณพื้นที่โดยรอบ ทำให้พบว่าเป็นฟอสซิลต้นไม้ที่แข็งเป็นหินอายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปี โดยท่อนหินดังกล่าวมีความสมบูรณ์เป็นท่อนยาวนอนอยู่มีความยาว 25 เมตร หน้ากว้างราว 120 เซนติเมตร ต่อมาเมื่อท่อนหินดังกล่าวโดนลมและโดนแสงอาทิตย์ทำให้ท่อนหินแตกร้าว และหินดังกล่าวมีน้ำหนักเบากว่าหินทั่วไปจากการปรับพื้นที่ก็ยังพบว่ามีฟอสซิลต้นไม้กลายเป็นหินอีกจำนวนมากหลายจุดหลายต้น มีทั้งสภาพที่สมบูรณ์และสภาพที่แตกหัก เตรียมจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ ชมต้นไม้กลายเป็นหิน

นายสมชาย      กุญชร  อายุ 56 ปี  อยู่ที่หมู่ที่1 ตำบลทับไทร อำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร เจ้าของสวนมะม่วงที่พบเจอฟอสซิลต้นไม้ขนาดใหญ่กลายเป็นหิน เล่าว่า ซากต้นไม้เก่าแก่ที่ขุดพบเจอนั้นคือฟอสซิลต้นไม้ขนาดใหญ่กลายเป็นหินที่อายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปีโดยมีเจ้าหน้าจากกรมทรัพยากรธรณีได้ลงมาสำรวจพบว่าเป็นต้นไม้ที่เก่าแก่ที่เปลี่ยนสภาพกลายเป็นหินฟอสซิลและเตรียมอนุรักษ์เตรียมจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ ชมต้นไม้กลายเป็นหิน
สำหรับไม้กลายเป็นหิน คือซากดึกดำบรรพ์ของพืชประเภทหนึ่ง เกิดขึ้นจากท่อนไม้ถูกฝังกลบอยู่ใต้ผิวดินในสภาพที่ขาดออกซิเจนทำให้เนื้อไม้ไม่เน่าเปื่อย และถูกฝังแช่อยู่ ในสภาพแวดล้อมที่ท่อนไม้และสารละลายซิลิกาได้สัมผัสกับออกซิเจนเป็นบางช่วงเวลาทำให้สารละลายซิลิกาตกตะกอนในรูปของซิลิกาเจล สะสมตัวแทนที่โมเลกุลของเนื้อไม้ จนทำให้ท่อนไม้ที่เป็นเนื้อสารอินทรีย์เปลี่ยนไปเป็นเนื้อหินซิลิกาแต่ยังคงรักษาโครงสร้างเนื้อไม้ดั้งเดิมเอาไว้





ติดตามข่าวสาร คนพิจิตร แฟนเพจ ได้ที่ : 

คนพิจิตร Line Official คลิ๊ก https://lin.ee/st48Lth




วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ขอเชิญเที่ยวงานประเพณีปิดทองไหว้พระ​ วัดหาดมูลกระบือ พ.ศ.๒๕๖๓



ประชาสัมพันธ์​งานประจำปี​ ๒๕๖๓

งานประเพณีปิดทองไหว้พระ​ วัดหาดมูลกระบือ

วันที่​ ๗​ -​ ๘​ กุมภาพันธ์​ พ.ศ.๒๕๖๓
➡️ วันที่​ ๗​ กุมภาพันธ์​ พ.ศ.๒๕๖๓
เวลา​ ๑๗.๐๐​ น.​ เจริญ​พระพุทธมนต์เปิดงาน
เวลา​ ๒๐.๐๐​ น.​ มหรสพ​ ลิเกทำการแสดง
➡️ วันที่​ ๘​ กุมภาพันธ์​ พ.ศ.๒๕๖๓
เวลา​ ๐๗.๐๐​ น.​ ประเพณีถวายสังฆทานหน้าอุโบสถ
เวลา​ ๑๐.๐๐​ น.​ ลิเกรำแก้บน​ในอุโบสถ
และทำการแสดงรอบกลางวัน
เวลา​ ๒๐.๐๐​ น.​ พิธีเวียนเทียนวันมาฆบูชา
เวลา​ ๒๐.๓๐​ น.​ มหรสพ​ ลิเกและดนตรีทำการแสดง

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/profile.php?id=100007057625978

ติดตามข่าวสาร คนพิจิตร แฟนเพจ ได้ที่ : 

คนพิจิตร Line Official คลิ๊ก https://lin.ee/st48Lth

พิจิตร แล้งจัดต้นมะม่วงอายุ 3 เดือนยืนต้นตาย



พิจิตรสถานการณ์ภัยแล้งที่มาไวกว่าทุกปี ส่งผลให้ต้นมะม่วงที่อายุ 3 เดือนเริ่มทยอยยืนต้นตาย เนื่องจากทนกับภัยแล้ง และ อากาศที่ร้อนไม่ไหว หลังจากที่สภาพอากาศอากาศที่ร้อนและ แล้ง หนัก
สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ยังคงทวีความรุนแรงจนสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง ความรุนแรงของภัยแล้งส่งผลให้ต้นมะม่วงที่ปลูกไว้อายุ 3 เดือนเริ่มทยอยยืนต้นตาย สวนมะม่วง ของเกษตรกรที่ตำบลวังทับไทร  อำเภอสากเหล็ก ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกมะม่วงแหล่งใหญ่ที่สุดของจังหวัดพิจิตรเริ่มทยอยยืนต้นตายจากการขาดน้ำเนื่องจากสภาพอากาศที่แล้งและร้อนจัด แหล่งน้ำธรรมชาติที่แห้งขอด ฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ส่งผลให้ต้นมะม่วงที่เกษตรกรเพิ่งเริ่มปลูกเอาไว้เพื่อหวังสร้างรายได้ บางส่วนต้องแห้งเหี่ยวยืนต้นตาย เนื่องจากสภาวะฝนทิ้งช่วง อากาศที่ร้อน และ ภัยแล้งที่ยาวนาน ทำให้ ต้นมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง ที่เกษตรกรปลูกไว้ จำนวน เกือบ 100 ต้น ทยอยยืนต้นตาย เนื่องจากทนกับภัยแล้ง และ อากาศที่ร้อนไม่ไหว เกษตรกรต้องเร่งทำการรดน้ำเพื่อรักษา ต้นมะม่วงที่เหลืออยู่ รอดจากภัยแล้ง 

สำหรับ พื้นที่ ตำบลวังทับไทร  อำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตรถือว่าเป็นแหล่งปลูกมะม่วง น้ำดอกไม้สีทอง ส่งออก ที่สำคัญของจังหวัดพิจิตร ที่เกษตรกรนิยมปลูกกันมาก เกษตรกรชาวสวนส่วนใหญ่ยังได้รับผลกระทบ จากฝนทิ้งช่วง และน้ำต้นทุนที่ทยอยแห้งเหลือน้อยลง ในช่วงนี้